นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า จากกรณีที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.00% ต่อปี เป็น 2.25% ต่อปี ธนาคารยังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ตลาดสำหรับการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเงินออม ธนาคารได้มีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุดถึง 0.50% ซึ่งสูงกว่าการปรับขึ้นของ กนง. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2566 ดังนี้

สำหรับลูกค้าบุคคล

· บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ 24 เดือน ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุก ๆ 6 เดือน และลูกค้าได้รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดเพิ่มขึ้น 0.50% เป็น 3.50% ต่อปี ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มุ่งเน้นการออมในบัญชีดอกเบี้ยสูงแต่ยังต้องการสภาพคล่อง เพราะถอนได้ก่อนกำหนด ไม่ถูกลดดอกเบี้ย เริ่มฝากขั้นต่ำได้ที่ 5,000 บาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

· บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี ดอกเบี้ยด่วน ประเภท 12 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.50% เป็น 1.80% ต่อปี โดยลูกค้าสามารถรับดอกเบี้ยไปใช้หลังการฝากเงินเพียง 7 วัน โดยเปิดบัญชีครั้งแรกขั้นต่ำ 10,000 บาท

· บัญชีเงินฝากประจำประเภท 3 เดือน, 6 เดือน และ 12 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 1.05%, 1.15% และ1.55% ตามลำดับ

สำหรับลูกค้านิติบุคคล

· บัญชี ทีทีบี เงินฝากประจำประเภท 24 เดือน

• สำหรับกลุ่มลูกค้านิติบุคคลทั่วไป ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.60% ต่อปี
• สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงิน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.30% ต่อปี

· บัญชีเงินฝากประจำ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ ปรับอัตราดอกเบี้ยช่วงเดือนที่ 1-6 จาก 1.00% เป็น 1.10% โดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 1.80% ในช่วงเดือนที่ 19-24

“ธนาคารให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมการออมเพื่ออนาคตและมีเงินสำรองยามฉุกเฉิน การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จะช่วยให้ลูกค้าเงินออมได้รับประโยชน์สูงสุดจากสถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้น และเพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น” นายปิติ กล่าวสรุป

นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในภาวะที่ค่าครองชีพสูง ปัญหาหนี้ครัวเรือนและดอกเบี้ยขาขึ้น กรุงศรีออโต้จะควบคุมดูแลคุณภาพลูกหนี้ หรือคุมหนี้ด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล) ในปีนี้ไม่ให้เกิน 2% เหมือนกับปีที่ผ่านมา โดยเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพและตั้งเป้าหมายยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มากขึ้น อยู่ที่ 4,600 ล้านบาท หรือเติบโต 100% จากปีที่ผ่านมา คิดดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.88% ไปจนถึง 3% ต่อปี คาดว่ายอดขายรถอีวีในปีนี้จะทำได้มากกว่า 30,000 คัน และได้นำแคมเปญสู่งานมอเตอร์โชว์ คาดจะมีสินเชื่อ 1,250 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ คาดยอดสินเชื่อคงค้างรวม 426,000 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่เติบโต 5% หรืออยู่ที่ 192,100 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายสินเชื่อออนไลน์ (ดิจิทัลเลนด์ดิ้ง) ปีนี้เติบโต 8.5% อยู่ที่ 16,000 ล้านบาท พร้อมขับเคลื่อนและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ตลอดจนขยายอีโคซิสเต็มยานยนต์ในทุกๆ มิติได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อต่อยอดสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ผลดำเนินงานช่วงปี 65 เติบโตโดดเด่นทะลุเป้าหมายที่ 17% ส่งผลให้สินเชื่อปล่อยใหม่ปี 65 อยู่ที่ 183,000 ล้านบาท โดยส่วนช่องทางออนไลน์สินเชื่อเติบโตเด่นเช่นกัน ส่งผลให้สินเชื่อออนไลน์ (ดิจิทัลแลนด์ดิ้ง) ปี 65 เติบโตสูงถึง 7% สำหรับธุรกิจกรุงศรีออโต้ปีนี้ ยังเติบโตต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ ที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นายคงสิน กล่าวว่า ภาพรวมตลาดสินเชื่อยานยนต์ในปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าเติบโตที่ระดับ 3.3% มูลค่ายอดสินเชื่อยานยนต์ใหม่ในตลาดรวมจะอยู่ที่ 527,000 ล้านบาท เติบโต 7% ส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์ในระบบคาดว่าอยู่ที่ 820,000 คัน หรือเติบโต 2% ทั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ เห็นถึงความสำคัญของ 2 เทรนด์ผู้บริโภคที่น่าสนใจ คือ วัฒนธรรมการบริโภคแบบใหม่ที่เน้นประสบการณ์มากกว่าเน้นการขาย และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากขึ้น

“ในปีนี้กรุงศรี ออโต้ จะขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ พร้อมสร้างสรรค์โซลูชันเพื่ออนาคต ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การสร้างฐานแฟนซูมเมอร์ ผ่านแพลตฟอร์มหลักอย่างโก บาย กรุงศรี ออโต้ ผ่านการเชื่อมต่อนวัตกรรมพร้อมสตาร์ท เรดดี้ อย่างไร้รอยต่อ ช่วยให้ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจซื้อรถ สามารถเลือกรถที่ใช่ ในเวลาที่ชอบ ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น พร้อมเปิดโอกาสใหม่ด้วยเอไอด้วยฐานข้อมูลลูกค้าในเครือกรุงศรี และกลยุทธ์วัน รีเทล ที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับเทคโนโลยีเอไอ ที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนคุณค่าอย่างยั่งยืน พร้อมนำเสนอบริการครบ จบ บนแพลตฟอร์มเดียว ผ่านการพัฒนาฟีเจอร์และบริการแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้รถสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ได้ด้วยตนเองอย่างง่าย”

ติอาโก้ สคูโร่ ซีอีโอของโมนาโกยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า จาค็อบส์ เตรียมย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของ กาลาตาซาราย หลังจากทีมดังลีก เอิง ผ่านข้อตกลงกับสโมสรตุรกี

“พวกเราจะประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นและมีการเซ็นสัญญา” สคูโร่ เผยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“จาค็อบส์ เดินทางไปที่นั่น (กาลาตาซาราย) เพื่อดำเนินการตรวจร่างกายและจัดการขั้นตอนสุดท้ายในเรื่องของเอกสาร พวกเราน่าจะทำการยืนยันอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วัน

“ผมไม่รู้ว่าเขาถึง (ตุรกี) หรือยัง แต่พวกเราได้รับแจ้งว่ามีการตกลงระหว่างสโมสรตั้งแต่เมื่อวาน (เสาร์)”

สำหรับ จาค็อบส์ กลายเป็นเป้าหมายหลักของ กาลาตาซาราย ที่พยายามทำข้อตกลงกับ โมนาโก แบบต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้เหลือแค่จัดการรายละเอียดส่วนสุดท้ายก่อนดำเนินการเปิดตัวนักเตะวัย 25 ปี

เคียซ่า ย้ายจาก ยูเวนตุส มายัง ลิเวอร์พูล ในเดือนสิงหาคม โดยเซ็นสัญญาถึงเดือนมิถุนายน ปี 2028

ดาวเตะทีมชาติอิตาลีถูกสั่งให้แยกซ้อมมาตลอดในช่วงซัมเมอร์กับ ยูเวนตุส ดังนั้นเขาจึงยังไม่พร้อมลงสนามในเกมบุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 ก่อนเบรกทีมชาติในเดือนกันยายน

ลูเซีย บรามานี่ ภรรยาของเขาที่ย้ายตามไปยังอังกฤษด้วยกำลังอยู่ในช่วงการปรับตัวเช่นเดียวกับสามี

ในสตอรี่บนอินสตาแกรมล่าสุดของเธอ ลูเซีย ได้โชว์รูปที่ปีกชาวอิตาลีรายนี้ยืนพร้อมรอยยิ้มในสนามแอนฟิลด์ที่ว่างเปล่า ในสตอรี่มีเพลงประจำสโมสร ลิเวอร์พูล และข้อความว่า “ดีใจที่ได้เป็นสาวกสเกาเซอร์”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

แม้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด จะใช้คำนี้มาล้อเลียนก่อนเกมแดงเดือดเมื่อวันอาทิตย์ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต่างภาคภูมิใจในคำว่า 'สเกาเซอร์' และภรรยาของ เคียซ่า ก็แสดงให้เห็นว่าเธอกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้อยู่

เนื่องด้วยปัญหาเรื่องความฟิต และการตกลงกับ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เคียซ่า จะไม่มีชื่ออยู่ในทีมชาติอิตาลีที่จะพบกับ ฝรั่งเศส และ อิสราเอล

Ngư dân “thiệt đơn thiệt kép”

Tàu cá QB 91786 TS của anh Nguyễn Hải Linh, trú xã Bảo Ninh, thành phố Đồng Hới (Quảng Bình) chuyên hoạt động thu mua hải sản trên biển. Tuy nhiên, thời gian gần đây, anh Linh phải cho tàu nằm bờ vì khó khăn trong việc liên lạc trên biển, nguyên nhân vì mạng viễn thông gặp sự cố.

Theo anh Linh, anh đang sử dụng thiết bị giám sát hành trình và sử dụng mạng viễn thông VNPT. Tuy nhiên hơn 1 tháng qua, mạng viễn thông của đơn vị này liên tục bị lỗi, chập chờn, lúc có lúc không, thậm chí “mất sóng” 2 đến 3 ngày liền.

Được biết, tại Quảng Bình có khoảng 800 tàu cá đang sử dụng mạng viễn thông VNPT, việc mạng bị sự cố đang khiến ngư dân gặp rất nhiều khó khăn.

“Tàu chúng tôi chuyên thu mua hải sản cho ngư dân trên biển, không liên lạc được, không nắm bắt được vị trí, nhu cầu của các tàu cá thì làm sao mà thu muatrích dẫn từ Khe web trực tiếp. Ngư dân ra khơi chẳng thể liên lạc về đất liền, khiến gia đình cũng bất an theo”, anh Linh chia sẻ.

Cũng theo các ngư dân tại Quảng Bình, sóng viễn thông hoạt động không ổn định, ngư dân chính là người “thiệt đơn thiệt kép”. Bởi, trước mỗi chuyến đi biển, thiết bị hoạt động tốt, tàu mới được cơ quan chức năng cho phép xuất bến vươn khơi đánh bắt cá. Nếu thiết bị không có sóng, tàu sẽ không được xuất bến.

Đó là chưa nói đến việc tàu đang hoạt động trên biển, nếu trong vòng 6 giờ đồng hồ không bấm được định vị, chuyến đi biển đó sẽ không được công nhận và ngư dân không nhận được tiền hỗ trợ nhiên liệu của nhà nước.

Nghiêm trọng hơn, khi đang đánh bắt trên biển, tàu xảy ra trục trặc, sự cố sẽ rất nguy hiểm, ngoài ra nếu tàu không có định vị tọa độ, sẽ không được phía bảo hiểm bồi thường thiệt hại.

Còn với những người mẹ, người vợ có chồng, con ngày ngày lênh đênh trên biển, khi mạng viễn thông hoạt động chập chờn, cũng khiến họ nơm nớp, “hồn treo cột buồm”. Nỗi lo càng nhân lên khi mới đây, 4 tàu cá Quảng Bình không may chìm trên biển, 10 ngư dân đang mất tích.

Do sự cố vệ tinh

Tỉnh Quảng Bình cótrên 1.200 tàu đánh bắt xa bờ, theo quy định các tàu cá này đã lắp thiết bị giám sát hành trình.

Tuy nhiên, do hệ thống mạng viễn thông mất kết nối với thiết bị giám sát hành trình nên hàng trăm tàu cá đang hoạt động trên biển bị mất tín hiệu với trạm bờ, gây khó khăn cho việc quản lý.

“Việc mất hệ thống giám sát hành trình sẽ khiến cơ quan chức năng không nắm bắt được tàu cá hoạt động vùng nào, hay ranh giới nước ngoài. Không liên lạc được với các tàu để ứng cứu, hỗ trợ khi có các vấn đềxảy ra trên biển”, Đại úy Phạm Quang Hùng, Trạm trưởng Trạm kiểm soát Nhật Lệ, Bộ Chỉ huy Bộ đội Biên phòng tỉnh Quảng Bình cho hay.

Hiện Bộ Chỉ huy Bộ đội Biên phòng tỉnh Quảng Bình vẫn cho phép tàu ra khơi, nhưng phải sử dụng máy nhắn tin và bộ đàm tầm xa VX 1.700 đã lắp cách đây trên 10 năm, để báo vị trí hoạt động vào đất liền. Đồng thời hướng dẫn người dân lắp đặt và cập nhật lại dữ liệu tàu cá của mình để thuận lợi khai thác thủy sản trên biển.

Liên quan đến vấn đề mạng viễn thông chập chờn, Bà Trương Thị Hoàng Yến, Phó Giám đốc Trung tâm Kinh doanh VNPT Quảng Bình, lý giải, đây là sự cố vệ tinh ngoài mong muốn của đơn vị cung cấp dịch vụ.

VNPT đang phối hợp với các đơn vị liên quan, các đối tác cung cấp dịch vụ vệ tinh để xử lý, khắc phục sự cố trong thời gian sớm nhất.

Khoa Thăm dò chức năng, Bệnh viện Bệnh Nhiệt đới Trung ương vừa thực hiện nội soi gắp xương cá cho bệnh nhân nam, 47 tuổi ở Đông Anh, Hà Nội.

Bệnh nhân có tiền sử khỏe mạnh. Khi đang ăn tối với món cá (cá ngạnh) cùng bạn bè, bệnh nhân xuất hiện cảm giác khó nuốt, nuốt vướng, nghi bị hóc xương.

Bệnh nhân đã đi khám tại phòng khám gần nhà nhưng không giải quyết được tình trạng. Bệnh nhân đến cấp cứu tại Bệnh viện Bệnh Nhiệt đới Trung ương (cơ sở Đông Anh).

Tại đây, bệnh nhân được chẩn đoán có dị vật trong hầu họng. Sau khi thăm khám, bệnh nhân được ThS.BS Nguyễn Tất Thành và ê kíp trực của khoa Thăm dò chức năng thực hiện thủ thuật nội soi lấy dị vật.

Ekip bác sĩ đã thực hiện đưa đèn nội soi vào vùng hạ họng – thanh quản, sát gốc lưỡitrích dẫn từ Khe web trực tiếp. Hình ảnh cho thấy có mảnh xương cá găm sâu vào gốc lưỡi, niêm mạc xung quanh phù nề.

Sau 15 phút các bác sĩ đã tiến hành gắp mảnh xương cá qua nội soi bằng dụng cụ chuyên dụng. Ekip lấy ra được một mảnh xương dài xấp xỉ 2,5cm, có đầu nhọn.

BS Thành cho biết: “Sau thủ thuật nội soi, mảnh dị vật là xương hóc được lấy ra an toàn, sau lấy dị vật không chảy máu. Bệnh nhân trở lại hoạt động bình thường.

Hóc dị vật đường tiêu hóa thường gặp ở thực quản, dạ dày. Nếu không được xử lý kịp thời nó sẽ để lại một số biến chứng như: tạo ổ áp xe, chảy máu…”.

Ngày nay y học đã phát triển, các kỹ thuật nội soi đã được triển khai. Khi nghi có dị vật đường tiêu hóa, người bệnh nên đến cơ sở y tế để gắp dị vật qua nội soi.

Đây là phương pháp an toàn và hiệu quả. Người bệnh sẽ được khám lâm sàng, chụp X-quang để xác định.

Sau đó, ekip sẽ tiến hành gắp dị vật qua nội soi gây mê đường tiêu hóa đảm bảo an toàn, không đau. Người dân tuyệt đối không nên chữa hóc dị vật bằng các mẹo dân gian bởi nếu dị vật để lâu có thể gây thủng ruột, nhiễm trùng, áp xe và nguy hiểm đến tính mạng.